วันนี้ทำตัวเป็นนักเศรษฐศาสตร์หน่อย

หลังจากโควิด ทุกประเทศเกิดวิกฤติหนักทำให้มีผลต่อเศรษฐกิจ และเศรษฐศาสตร์ทั่วโลก การผลิต การจัดการโควิด ทำให้การสร้างมูลค่าต่าง ๆ ในโลกลดลง ในขณะที่รัฐบาลทั่วโลกต่างก็อัดฉีดสนับสนุน ธุรกิจเอกชนในประเทศของตัวเองไม่ว่าจะกู้ยืมเงิน หรือมีการอัดฉีดเงินเข้าไปในระบบโดยที่มูลค่าจริงไม่มีเกิดขึ้นในตลาด

ในขณะที่แต่ละประเทศทั่วโลกสูญเสียทรัพยากรมนุษย์ที่มีค่ามากมาย ทำให้การผลิต การอุตสาหกรรม ต่าง ๆ ที่ลดลงจนทำให้การจ้างงาน สร้างรายได้ สร้างมุลค่ามวลรวมของแต่ละประเทศลดลง แต่ทั้ง ๆ ที่ยังไม่ทันฟื้นตัวได้ดีจริง ตลาดหุ้นของแต่ละประเทศกลับฟื้นก่อนความเป็นจริงของสภาพตลาดแล้ว

ดูจากประเทศไทยที่เป็นประเทศที่มีความเหลือมล้ำมาก คนที่รวยก็รวยไป คนที่จนก็จนไป เงินที่อัดฉีดมา ไม่ว่าจะแบบไหนบ้างก็ตาม จะคนละครึ่ง จะอะไรเราชนะสุดท้ายก็ลงเอยไปจบที่บริษัทใหญ่ ๆ ทั้งนั้น ความเหลือมล้ำจะยิ่งรุนแรง สิ่งเหล่านี้ทำให้ปริมาณเงินในใตลาดมากขึ้น แต่มูลค่าสินค้าจริง ๆ ที่เกิดขึ้นในตลาดนั้นลดลง ดังนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นคือ ค่าเงินต่าง ๆ เป็นไปในลักษณะที่การจะซื้อของต่าง ๆ จะต้องใช้เงินที่สูงขึ้น ที่เราเรียกกันว่าเงินเฟ้อ จนทำให้ประเทศไทยจะอยู่ได้ยากสำหรับกลุ่มคนชั้นล่าง และปานกลางแต่คนรวยก็จอยู่อย่างสุขสบายโดยไม่กระทบอะไรนัก

นี่ยังไม่ได้พูดถึงการที่กู้เงินเพื่อการนี้และการเอาเงินออกไปนอกระบบจากการนำเงินไปซื้ออาวุธ ยุทโธปกรณ์ พาเอาหนี้ครัวเรือน หนี้ต่อหัวของประชากรสูงมาก นี่ยังไม่ได้พูดถึงการขึ้นราคาของหมูจนพาเอาไก่ราคาขึ้น ค่าไข่ขึ้นตามจนเค้ก เบเกอรี่ก็พากันขึ้นไปเรื่อย ๆ ดังนั้นตอนนี้เรียกได้เราอยู่ในสถานการณ์ ซวย上加ซวยจริง ๆ

ส่วนเงินจะเฟ้อแค่ไหน ราคาสินค้าสูงขึ้นจนถึงเมื่อไหร่ นั้นไม่อาจเดาได้ แต่นั่นก็สะท้อนถึงความไม่ Balance ของเศรษฐกิจโลก และเศรษฐกิจในประเทศไทย อีกไม่นานวิกฤติของเราจะฟองสบู่แตกกันอีกรอบ แต่จะเป็นเมื่อไหร่นั้นก็รอดูกันไปครับ

สำหรับคนลงทุนในตลาดหุ้นตอนนี้ก็ไหวตัวเร็ว ๆ หน่อยนะครับช่วงนี้ เพราะเชื่อได้เลยว่า เศรษฐกิจของไทยนั้น ยังไม่ดีขนาดนี้ ดูจากความที่ราคาหุ้นพุ่งสูงขึ้นมากในขณะที่อสังหาริมทรัพย์พากันลดราคาขาย เทตลาด ผู้คนพากันขายบ้าน ขายช่อง ในขณะที่การปล่อยเงินกู้ซื้อบ้านกันไม่ค่อยออก เศรษฐกิจทุก ๆ ภาคส่วนฝืดไปหมด เห็นได้ว่าตลาดหุ้นไทยตอนนี้ไม่สะท้อนสภาพเศรษฐกิจของไทยเลย รอวันพังครืนลงมา

ถึงแม้ว่าเศรษฐกิจตอนนี้อาจมีบางกลุ่มที่ทำธุรกิจกันออนไลน์ได้ขายของออนไลน์ได้ ขนส่งได้ ก็ดีกับธุรกิจเหล่านี้จนดูเหมือนว่าเงินอาจจะฝืดได้เหมือนกัน ทำให้ดูดี ชะลอ วิกฤตฟองสบู่แตกได้ไปสักพัก แต่อีกหลายธุรกิจที่ต้อง Onsite ผมเชื่อว่าแค่ธุรกิจกลุ่มออนไลน์ที่ดีขึ้นนั้นไม่อาจเป็นตัวแทนของสินค้าทุกอย่างบนตลาดได้ โดยเฉพาะประเทศไทยที่มีรากฐานมาจากการเกษตร อุตสาหกรรมและการท่องเที่ยว เป็นหลัก

Similar Posts